ผ้าม่าน 7 ประเภท - มารู้จักผ้าม่านประเภทต่างๆ ก่อนจะเข้าไปเลือกในร้านผ้าม่านกันดีกว่า... (รัชนาผ้าม่าน ผ้าม่านศรีราชา)
วันนี้ เรามารู้จัก ผ้าม่าน "แต่ละประเภท" กันดีกว่าครับ
ว่า...เวลาที่เราเข้าไปที่ร้านผ้าม่าน เราจะพูดถึงผ้าม่านแบบไหนกันบ้าง....
** ประเภทที่แบ่ง จะแบ่งตามวิธีการ "ตัดเย็บ" นะครับ ส่วนใหญ่ ผ้าแบบเดียวกัน จะเลือกได้หลายอย่างว่า อยากให้ตัดเย็บแบบไหน ลองถามร้านผ้าม่านดูนะครับ
1) ม่านตาไก่
ผ้ายอดฮิต สำหรับผ้าม่านยุคนี้ ก็คงหนีไม่พ้น ม่านตาไก่ครับ เนื่องด้วยความชัดของลอน ที่ถ้าใช้ผ้าอย่างพอเหมาะพอควรแล้ว จะได้ลอนผ้าที่สวยงาม ชัดเจน เก็บง่าย ใช้ง่าย จึงเป็นผ้าม่านแบบที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้กันในปัจจุบันครับ
รางที่ใช้ จะใช้ "รางโชว์" ครับ เป็นรางเหล็กกลม เคลือบฟิล์มทำลายแบบต่างๆ ส่วนมากเป็นลายไม้หรือลายเหล็กครับ
2) ม่านจีบ
การตัดเย็บแบบม่านจีบ จะค่อนข้างฮิตในสมัยก่อน แต่เดี๋ยวนี้ พอมีม่านตาไก่ ที่ลอนสวยกว่า ใหญ่กว่า ม่านจีบ จึงได้รับความนิยมลดลงไปพอสมควร (แม้จะยังมีหลายท่านที่ชอบม่านจีบอยู่เช่นกันครับ)
ม่านจีบ จะสามารถติดตั้งกับรางได้สองแบบครับ คือ ม่านจีบรางโชว์ กับม่านจีบรางเอ็ม(หรือรางอลูมิเนียม) ซึ่งก็จะมีความแตกต่างกันไปแล้วแต่ความชอบส่วนตัวครับ
ม่านจีบรางโชว์ จะเป็นผ้าม่านที่เย็บแบบจีบ แต่จะคล้องห่วงกับตาไก่ที่คล้องกับรางโชว์อีกทีนึง เหมาะสำหรับ ท่านที่ชอบรางโชว์แต่ไม่ชอบให้ตาไก่เจาะในผ้าครับ
ม่านจีบรางเอ็ม (รางอลูมิเนียม) เป็นผ้าที่ตัดเย็บแบบใส่จีบเข้าไปเช่นกัน แต่ติดกับรางสีขาว(หรือดำ) ที่เป็นรางอลูมิเนียม ข้อดีคือความแข็งแรงในการเจาะตัวขายึดติดกับผนัง จะเจาะได้หลายตัว (รางโชว์จะเจาะได้แค่ 3 ตัว เพื่อให้ผ้าสามารถรูดเปิดปิดได้) ทำให้ได้ความแข็งแรงที่มากกว่า แต่ข้อเสียคือ ตัวรางอาจจะไม่ได้สวยงามเท่าไหร่นักสำหรับบางท่าน
3) ม่านพับ
ม่านที่เหมาะกับการติดไว้ที่หน้าต่างบานแคบๆ ขนาดไม่ใหญ่มาก บานกระทุ้ง บานเลื่อน หรือช่องกระจกขนาดไม่ใหญ่มาก
ม่านพับจะสวยมากๆ ขณะเปิดหรือดึงม่านขึ้น จะเรียงเป็นชั้นๆ สวยงามครับ แต่ข้อเสียคือ ถ้าหากปิดม่านลงมา มันจะเหมือนผ้าสี่เหลี่ยมผืนเดียวโดดๆ ซึ่ง(ส่วนใหญ่แล้ว) เรามักจะมองว่า ไม่ค่อยสวยนัก
เพราะฉะนั้น ม่านพับ จึงเหมาะกับหน้าต่างบานที่เปิดเป็นประจำ น่าจะดีกว่าครับ
4) มู่ลี่
ถ้าม่านพับไม่สวย เรามักจะแนะนำให้ลูกค้าติดมู่ลี่ ไม่ว่าจะเป็นมู่ลี่ไม้ หรือมู่ลี่อลูมิเนียม (แม้ว่าราคาอย่างแรกจะแพงกว่าอย่างหลังค่อนข้างมากอยู่) ซึ่งมู่ลี่ จะปกปิดข้อเสียของม่านพับได้เป็นอย่างดี คือ มู่ลี่มันจะสวยตอนที่เราปิดมู่ลี่ลง (ซึ่งตรงข้ามกับม่านพับ)
แต่มู่ลี่ ก็มีข้อเสียมากกว่าผ้าม่านอย่างอื่นตรงที่ แม้ว่ามันจะเปิดปิดดึงขึ้นดึงลงได้ แต่ก็ไม่สะดวกนัก ยิ่งดึงปิดขึ้นปิดลงบ่อยๆ เฟืองตัวเล็กๆที่ทำจากพลาสติกหรือโลหะ ก็อาจจะเสียหายจากอายุการใช้งานได้
จริงๆ มู่ลี่ มันเหมาะกับการใช้แค่เปลี่ยนมุม เปิดปิดบานพับเพื่อรับแสงมากน้อยเท่านั้นครับ ไม่ได้เหมาะกับการปิดขึ้นปิดลงบ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้แปลว่า จะเปิดปิดขึ้นลงไม่ได้เอาเลยนะครับ ทำได้ แต่ไม่แนะนำให้ทำบ่อยๆเท่านั้นครับ อายุการใช้งานมันจะน้อยลง
5) ม่านม้วน
เป็นผ้าม่านที่เหมาะกับการเปิดปิดบ่อยๆ ถ้าหน้าต่างบานไหนที่ลูกค้าอยากติดมู่ลี่ แต่ต้องมีการเปิดปิดบ่อยๆ ผมมักจะแนะนำลูกค้าให้ใช้เป็นม่านม้วนแทนครับ
วัสดุหลักทำจาก PVC (ไม่ใช่ผ้านะครับ) ซึ่งมีทั้งโปร่งแสง ทึบแสง แล้วแต่ความต้องการว่าอยากให้แสงแดดเข้ามาในห้องมากน้อยแค่ไหนครับ
6) ม่านแป๊บ
เป็นผ้าม่านที่ขึงทั้งด้านบนและด้านล่างกับผนัง ซึ่งส่วนใหญ่ ผมมักจะแนะนำให้ติดที่กระจกที่อยู่ที่บานประตู และใช้ผ้าโปร่ง เพื่อจะให้แสงแดดเข้ามาในตัวห้องผ่านบานประตูได้ แทนที่จะปล่อยกระจกให้โล่งๆใสๆแทน
ว่า...เวลาที่เราเข้าไปที่ร้านผ้าม่าน เราจะพูดถึงผ้าม่านแบบไหนกันบ้าง....
** ประเภทที่แบ่ง จะแบ่งตามวิธีการ "ตัดเย็บ" นะครับ ส่วนใหญ่ ผ้าแบบเดียวกัน จะเลือกได้หลายอย่างว่า อยากให้ตัดเย็บแบบไหน ลองถามร้านผ้าม่านดูนะครับ
1) ม่านตาไก่
ผ้ายอดฮิต สำหรับผ้าม่านยุคนี้ ก็คงหนีไม่พ้น ม่านตาไก่ครับ เนื่องด้วยความชัดของลอน ที่ถ้าใช้ผ้าอย่างพอเหมาะพอควรแล้ว จะได้ลอนผ้าที่สวยงาม ชัดเจน เก็บง่าย ใช้ง่าย จึงเป็นผ้าม่านแบบที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้กันในปัจจุบันครับ
2) ม่านจีบ
การตัดเย็บแบบม่านจีบ จะค่อนข้างฮิตในสมัยก่อน แต่เดี๋ยวนี้ พอมีม่านตาไก่ ที่ลอนสวยกว่า ใหญ่กว่า ม่านจีบ จึงได้รับความนิยมลดลงไปพอสมควร (แม้จะยังมีหลายท่านที่ชอบม่านจีบอยู่เช่นกันครับ)
ม่านจีบ จะสามารถติดตั้งกับรางได้สองแบบครับ คือ ม่านจีบรางโชว์ กับม่านจีบรางเอ็ม(หรือรางอลูมิเนียม) ซึ่งก็จะมีความแตกต่างกันไปแล้วแต่ความชอบส่วนตัวครับ
ม่านจีบรางโชว์ จะเป็นผ้าม่านที่เย็บแบบจีบ แต่จะคล้องห่วงกับตาไก่ที่คล้องกับรางโชว์อีกทีนึง เหมาะสำหรับ ท่านที่ชอบรางโชว์แต่ไม่ชอบให้ตาไก่เจาะในผ้าครับ
ม่านจีบรางเอ็ม (รางอลูมิเนียม) เป็นผ้าที่ตัดเย็บแบบใส่จีบเข้าไปเช่นกัน แต่ติดกับรางสีขาว(หรือดำ) ที่เป็นรางอลูมิเนียม ข้อดีคือความแข็งแรงในการเจาะตัวขายึดติดกับผนัง จะเจาะได้หลายตัว (รางโชว์จะเจาะได้แค่ 3 ตัว เพื่อให้ผ้าสามารถรูดเปิดปิดได้) ทำให้ได้ความแข็งแรงที่มากกว่า แต่ข้อเสียคือ ตัวรางอาจจะไม่ได้สวยงามเท่าไหร่นักสำหรับบางท่าน
3) ม่านพับ
ม่านที่เหมาะกับการติดไว้ที่หน้าต่างบานแคบๆ ขนาดไม่ใหญ่มาก บานกระทุ้ง บานเลื่อน หรือช่องกระจกขนาดไม่ใหญ่มาก
ม่านพับจะสวยมากๆ ขณะเปิดหรือดึงม่านขึ้น จะเรียงเป็นชั้นๆ สวยงามครับ แต่ข้อเสียคือ ถ้าหากปิดม่านลงมา มันจะเหมือนผ้าสี่เหลี่ยมผืนเดียวโดดๆ ซึ่ง(ส่วนใหญ่แล้ว) เรามักจะมองว่า ไม่ค่อยสวยนัก
เพราะฉะนั้น ม่านพับ จึงเหมาะกับหน้าต่างบานที่เปิดเป็นประจำ น่าจะดีกว่าครับ
4) มู่ลี่
ถ้าม่านพับไม่สวย เรามักจะแนะนำให้ลูกค้าติดมู่ลี่ ไม่ว่าจะเป็นมู่ลี่ไม้ หรือมู่ลี่อลูมิเนียม (แม้ว่าราคาอย่างแรกจะแพงกว่าอย่างหลังค่อนข้างมากอยู่) ซึ่งมู่ลี่ จะปกปิดข้อเสียของม่านพับได้เป็นอย่างดี คือ มู่ลี่มันจะสวยตอนที่เราปิดมู่ลี่ลง (ซึ่งตรงข้ามกับม่านพับ)
แต่มู่ลี่ ก็มีข้อเสียมากกว่าผ้าม่านอย่างอื่นตรงที่ แม้ว่ามันจะเปิดปิดดึงขึ้นดึงลงได้ แต่ก็ไม่สะดวกนัก ยิ่งดึงปิดขึ้นปิดลงบ่อยๆ เฟืองตัวเล็กๆที่ทำจากพลาสติกหรือโลหะ ก็อาจจะเสียหายจากอายุการใช้งานได้
มู่ลี่ไม้ |
มู่ลี่อลูมิเนียม |
จริงๆ มู่ลี่ มันเหมาะกับการใช้แค่เปลี่ยนมุม เปิดปิดบานพับเพื่อรับแสงมากน้อยเท่านั้นครับ ไม่ได้เหมาะกับการปิดขึ้นปิดลงบ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้แปลว่า จะเปิดปิดขึ้นลงไม่ได้เอาเลยนะครับ ทำได้ แต่ไม่แนะนำให้ทำบ่อยๆเท่านั้นครับ อายุการใช้งานมันจะน้อยลง
5) ม่านม้วน
เป็นผ้าม่านที่เหมาะกับการเปิดปิดบ่อยๆ ถ้าหน้าต่างบานไหนที่ลูกค้าอยากติดมู่ลี่ แต่ต้องมีการเปิดปิดบ่อยๆ ผมมักจะแนะนำลูกค้าให้ใช้เป็นม่านม้วนแทนครับ
วัสดุหลักทำจาก PVC (ไม่ใช่ผ้านะครับ) ซึ่งมีทั้งโปร่งแสง ทึบแสง แล้วแต่ความต้องการว่าอยากให้แสงแดดเข้ามาในห้องมากน้อยแค่ไหนครับ
6) ม่านแป๊บ
เป็นผ้าม่านที่ขึงทั้งด้านบนและด้านล่างกับผนัง ซึ่งส่วนใหญ่ ผมมักจะแนะนำให้ติดที่กระจกที่อยู่ที่บานประตู และใช้ผ้าโปร่ง เพื่อจะให้แสงแดดเข้ามาในตัวห้องผ่านบานประตูได้ แทนที่จะปล่อยกระจกให้โล่งๆใสๆแทน
7) ผ้าโปร่ง
ไหนๆก็พูดถึงผ้าโปร่งแล้ว ขอแนะนำผ้าโปร่งเป็นอย่างสุดท้ายเลยแล้วครับ... ผ้าโปร่งนั้น มักจะถูกเรียกติดปากว่า ผ้าขาวบางมั่ง ผ้าสองชั้นมั่ง เอาเป็นว่า ขอเรียกว่าผ้าโปร่งไว้ก่อนละกันนะครับผม
ผ้าโปร่งนั้น สามารถตัดเย็บได้เหมือน ม่านตาไก่ กับม่านจีบ แต่มักจะนิยมทำเป็นม่านจีบเสียมากกว่า เพราะลอนจะได้ไม่ใหญ่หนามาก เวลาติดเป็นผ้าม่านสองชั้น จะได้ไม่ชนกันกับผ้าทึบที่อยู่ด้านหน้าแทน
ผ้าโปร่งติดโถงบันได |
แต่ถ้าจะติดม่านโปร่งแค่อย่างเดียว อันนี้ จะติดเป็นตาไก่หรือจีบ ก็สุดแล้วแต่ลูกค้าเลยนะครับ เพราะบางครั้ง การติดผ้าโปร่งที่โถงบันได ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับความต้องการให้แสงแดดส่องเข้ามาในตัวบ้านมากๆได้เช่นกันครับ
อ้อ...แต่ต้องไม่ลืมเรื่องสำคัญอีกอย่างนะครับ ว่า ผ้าโปร่งนั้น จะไม่มีความสามารถในการกันแดดหรือกัน UV เลยแม้แต่น้อย คือ หลายๆคนอาจจะมองว่า ผ้าโปร่งน่าจะช่วยกรองแสงได้ระดับหนึ่ง แต่เอาเข้าจริงๆ มันแค่บังตาเบาๆแค่นั้นครับ แสงที่ตกกระทบเข้ามาในตัวบ้าน แทบจะเท่ากับไม่ได้ติดม่านโปร่งเลยทีเดียว
เพราะฉะนั้น หากมีงบจำกัด ก็ไม่นิยมให้ติดผ้าโปร่ง เป็นม่านสองชั้นมากนักนะครับ เพราะประโยชน์การใช้สอยนั้น เรียกได้ว่าแทบจะเป็นศูนย์เลยทีเดียวครับผม
ม่านโปร่ง(ม่านสองชั้น) |
หวังว่า จะเป็นข้อมูลที่ดี สำหรับท่านที่กำลังต้องการเลือกผ้าม่านหรือจับต้นชนปลายไม่ถูก ก่อนจะเข้าไปเลือกพูดคุยกับร้านผ้าม่านนะครับ ^^
รัชนาผ้าม่าน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น