ผ้าม่าน วอลเปเปอร์ มู่ลี่ .... "จำเป็น"มั้ย?
คำถามนี้น่าสนใจครับ
หลายๆครั้ัง ที่ลูกค้าเข้ามาที่ร้านผม แล้วก็ได้พูดคุยกัน ไปๆมาๆ สักพัก สิ่งที่ผมจับสังเกตุได้บ่อยๆ
คือ คุณผู้ชาย จะเป็น "คนจ่ายตังค์"
ส่วนคุณผู้หญิง จะเป็น "คนอนุมัติ"
(หลักการพ่อบ้านเดี๊ยะๆ)
คือ ต้องบอกตรงๆงี้นะครับ
ผ้าม่าน น่ะ นัยหนึ่ง มันคือ "สิ่งจำเป็น" ครับ
แต่ผ้าม่าน "สวยๆ" นั้น ไม่ใช่สิ่งจำเป็นครับ
ลองคิดดูง่ายๆ เราติดม่านเพื่ออะไรครับ
ถ้าตอบว่า เพื่อให้บ้านสวย นั่นคือ มันไม่จำเป็นแล้ว
แต่ถ้าบอกว่า เพื่อป้องกันคนนอก จะมองเข้ามา เห็นคนในบ้าน อ่า อันนี้เห็นด้วยครับ มันใช่ คืออาจจะเป็นขโมย โจร คนอื่นที่เราไม่อยากให้เขามาก้าวล้ำความเป็นส่วนตัวของเรา
ซึ่งถ้าจะเอาแค่ "ความจำเป็น" มันก็ง่ายครับ ก็เลือกผ้าม่านที่ "ถูกที่สุด" ไปติดตั้งซะก็จบเรื่อง
แต่เนื่องด้วยเพราะ มันไม่ได้มีแค่ "ความจำเป็น" อย่างเดียว
แต่มันมี "ความสวยงาม" มาด้วยนี่สิ
มันก็เลยต้องมีการ "ปรึกษาหารือ" เรื่อง "ความชอบ" ของผู้อยู่อาศัยทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกันด้วย ระดับหนึ่ง
ซึ่งสุดท้าย มันต้องออกมาพอดีกับรายจ่ายที่เราเตรียมไว้ หรืองบประมาณที่พอเหมาะพอควร
ลูกค้าหลายๆท่าน เข้ามาในร้าน แล้วบรรจงเลือกทั้งผ้าม่านและวอลเปเปอร์แบบจัดเต็มมากๆ ซึ่งผมก็ไม่ได้ขัดหรือเบรคแต่อย่างใด แต่พอเลือกได้ทุกอย่างแล้ว พอผมคิดราคาให้ ก็ร้อง "หวายยย เกินงบ" กันเต็มเลย
ผมก็ไม่รู้ ว่า "งบ" ของแต่ละคนมันมากน้อยแค่ไหน
แต่ส่วนมาก จะอยากได้ไอ้ที่แบบ สวยๆ และถูกๆ ซึ่งอันนี้ผมก็เข้าใจครับ
แต่ก็ต้องดูอะไรหลายๆอย่างด้วย
ถ้าเป็นสมัยก่อน บ้านหนึ่งหลัง ผ้าม่านทั้งหลัง ติดกันเป็นแสนนะครับ
เดี๋ยวนี้ หลักหมื่นสองหมื่นก็พอทำได้เหมือนกัน
ซึ่ง ถ้าลองเทียบราคากันดู โซฟาบางตัวก็หลายหมื่น เครื่องนอนหลายแบบก็หลายหมื่น ทีวีจอยักษ์ เครื่องซักผ้า Build In ครัวนี่ตัวดี แอร์อีก เยอะแยะครับ
แต่ละอย่าง หลายหมื่นทั้งนั้น
ซึ่ง ส่วนใหญ่ ทุกคนซื้อได้ บอก ไม่แพง
ถามหน่อยครับ ว่าไอ้ "แพง" กับ "ไม่แพง" เนี่ย ทำไมถึงรู้
ก็เพราะ เราพอจะรู้ราคาตลาดคร่าวๆของมันยังไงล่ะครับ
จาก โบรชัวร์ จากใบปลิว โฆษณา ทีวี หรือสื่อต่างๆ เรารู้ราคาของมันตั้งแต่แรก และก็เห็นแทบจะตลอดตามท้องถนน ป้ายหน้าร้าน บิลบอร์ดโฆษณาตามถนน เยอะมาก
แต่พอมาที่ "ผ้าม่าน" เรากลับแทบไม่รู้ "ราคากลาง" ของมันเลย
พอร้านตีราคามาให้ 3 หมื่น เราบอกแพง
ต้องบอกว่า จะรู้ว่าแพงหรือถูก มันต้องเทียบราคาแต่ละร้านในผ้าแบบเดียวกัน ตีจำนวนหลาเท่าๆกันครับ ถึงจะรู้ได้ว่า ร้านไหนแพงหรือถูก
เชื่อมั้ยครับ ร้านผมเคยตีราคาบ้านทั้งหลังที่ 2.3 หมื่น ลูกค้าเจ้านี้ ไปตีราคาอีกร้าน ได้ราคาที่ 3.7 หมื่น
ผ้าแบบเดียวกัน ขนาดอาจต่างกันนิดหน่อย
นี่แหละครับ ผมถึงชอบบอกว่า ให้ตรวจสอบราคาหลายๆร้านให้ดี เพราะมันฟันกันง่ายมากๆ
กลับมาเรื่อง "ความจำเป็น" กันอีกทีครับ
สรุปว่า "ผ้าม่าน" น่ะ จำเป็นนะครับ เพื่อป้องกันไม่ให้คนนอกเห็น แต่จะเอาที่มันแพงหรือถูกแค่ไหน อันนี้ต้องไปคุยกันเองระหว่างผู้อยู่อาศัยครับ (ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะวงเงินแต่ละบ้านก็มีตัวเลขจำกัดตายตัวอยู่แล้ว)
ส่วน "วอลเปเปอร์" นั้น พูดตรงๆเลยครับ ว่า เป็นของ "ไม่จำเป็น" ครับ
ไม่ติด เราก็อยู่ในบ้านได้
แต่ถ้าใครที่ "ชอบเป็นการส่วนตัว" อันนี้ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ ผมเชียร์สินค้าเพื่อขายได้ครับ แต่ถ้าลูกค้าต้องกัดก้อนเกลือกินเพื่อมาซื้อของร้านผม ผมก็ไม่ขายนะครับ ผมจะขายให้มันพอดีกับความต้องการและกำลังของลูกค้าแต่ละคนมากกว่า ซึ่งก็อยู่ที่การพูดคุยสอบถามกันนั่นแหละครับ สักพักก็จะพอรู้แล้วว่า แต่ละคนวางงบประมาณพวกนี้ไว้ที่เท่าไหร่
ส่วน "มู่ลี่" ติดได้มั้ย ติดได้ครับ แต่มันก็มีทั้ง "มู่ลี่ไม้" และ "มู่ลี่อลูมิเนียม" ซึ่งถ้าเป็นมู่ลี่ไม้ มันก็แพงกว่าครับ ส่วนมู่ลี่อลูมิเนียม ราคามันก็พอๆกับผ้าม่านนั่นแหละครับ (อาจแพงกว่านิดหน่อยเท่านั้น)
ซึ่ง จะติดอะไรยังไง ผมก็ต้องแล้วแต่กำลังกับความชอบของแต่ละท่านแหละครับ
แต่ที่อยากบอกก็คือ อย่าเถียงกันเรื่อง อันนั้นสวย อันนี้ไม่สวย เลยครับ
เพราะจากประสบการณ์ของผม
พอเราติดม่านหรือวอลฯเข้าไปที่บ้านใหม่ของเรา
แรกๆ ก็จะมีเพื่อนฝูง ญาติพี่น้องเรามาเยี่ยมชม บ้างก็ทักว่า เออ ม่านสวยนะ หรือ วอลฯสวยนะ ซึ่งแน่นอนครับ ย่อมสร้างขวัญและกำลังใจให้เราได้มากทีเดียว
ทำให้เรารู้ว่า เราเลือกไม่ผิด
แต่ สักพัก ผ่านไป ปีสองปี
แขกที่มาเยี่ยมเราที่บ้าน เขาจะชมม่านเราทุกครั้งเหรอครับ
ก็ไม่หรอก
พ่อแม่เรา จะชมม่านกับวอลฯบ้านเราทุกครั้งมั้ยครับ
แน่นอนว่า ไม่
เพราะฉะนั้น สิ่งของต่างๆ เมื่อมันเป็นสิ่ิงที่ "ไม่จำเป็น" แล้ว ไม่ว่ามันจะสวยแค่ไหน สักพัก มันก็กลายเป็น "ของธรรมดา" ที่อยู่ในบ้านเราไปนั่นเองครับ
เพราะฉะนั้น เลือกให้พอดีกับความต้องการและ "งบประมาณ" ของเรา
แล้วเราจะไม่ลำบากทีหลังแน่นอนครับ
ร้านผ้าม่านศรีราชา รัชนาผ้าม่าน <<< คลิกมาพูดคุยสอบถามกันได้นะครับผม
หลายๆครั้ัง ที่ลูกค้าเข้ามาที่ร้านผม แล้วก็ได้พูดคุยกัน ไปๆมาๆ สักพัก สิ่งที่ผมจับสังเกตุได้บ่อยๆ
คือ คุณผู้ชาย จะเป็น "คนจ่ายตังค์"
ส่วนคุณผู้หญิง จะเป็น "คนอนุมัติ"
(หลักการพ่อบ้านเดี๊ยะๆ)
คือ ต้องบอกตรงๆงี้นะครับ
ผ้าม่าน น่ะ นัยหนึ่ง มันคือ "สิ่งจำเป็น" ครับ
แต่ผ้าม่าน "สวยๆ" นั้น ไม่ใช่สิ่งจำเป็นครับ
ลองคิดดูง่ายๆ เราติดม่านเพื่ออะไรครับ
ถ้าตอบว่า เพื่อให้บ้านสวย นั่นคือ มันไม่จำเป็นแล้ว
แต่ถ้าบอกว่า เพื่อป้องกันคนนอก จะมองเข้ามา เห็นคนในบ้าน อ่า อันนี้เห็นด้วยครับ มันใช่ คืออาจจะเป็นขโมย โจร คนอื่นที่เราไม่อยากให้เขามาก้าวล้ำความเป็นส่วนตัวของเรา
ซึ่งถ้าจะเอาแค่ "ความจำเป็น" มันก็ง่ายครับ ก็เลือกผ้าม่านที่ "ถูกที่สุด" ไปติดตั้งซะก็จบเรื่อง
แต่เนื่องด้วยเพราะ มันไม่ได้มีแค่ "ความจำเป็น" อย่างเดียว
แต่มันมี "ความสวยงาม" มาด้วยนี่สิ
มันก็เลยต้องมีการ "ปรึกษาหารือ" เรื่อง "ความชอบ" ของผู้อยู่อาศัยทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกันด้วย ระดับหนึ่ง
ซึ่งสุดท้าย มันต้องออกมาพอดีกับรายจ่ายที่เราเตรียมไว้ หรืองบประมาณที่พอเหมาะพอควร
ลูกค้าหลายๆท่าน เข้ามาในร้าน แล้วบรรจงเลือกทั้งผ้าม่านและวอลเปเปอร์แบบจัดเต็มมากๆ ซึ่งผมก็ไม่ได้ขัดหรือเบรคแต่อย่างใด แต่พอเลือกได้ทุกอย่างแล้ว พอผมคิดราคาให้ ก็ร้อง "หวายยย เกินงบ" กันเต็มเลย
ผมก็ไม่รู้ ว่า "งบ" ของแต่ละคนมันมากน้อยแค่ไหน
แต่ส่วนมาก จะอยากได้ไอ้ที่แบบ สวยๆ และถูกๆ ซึ่งอันนี้ผมก็เข้าใจครับ
แต่ก็ต้องดูอะไรหลายๆอย่างด้วย
ถ้าเป็นสมัยก่อน บ้านหนึ่งหลัง ผ้าม่านทั้งหลัง ติดกันเป็นแสนนะครับ
เดี๋ยวนี้ หลักหมื่นสองหมื่นก็พอทำได้เหมือนกัน
ซึ่ง ถ้าลองเทียบราคากันดู โซฟาบางตัวก็หลายหมื่น เครื่องนอนหลายแบบก็หลายหมื่น ทีวีจอยักษ์ เครื่องซักผ้า Build In ครัวนี่ตัวดี แอร์อีก เยอะแยะครับ
แต่ละอย่าง หลายหมื่นทั้งนั้น
ซึ่ง ส่วนใหญ่ ทุกคนซื้อได้ บอก ไม่แพง
ถามหน่อยครับ ว่าไอ้ "แพง" กับ "ไม่แพง" เนี่ย ทำไมถึงรู้
ก็เพราะ เราพอจะรู้ราคาตลาดคร่าวๆของมันยังไงล่ะครับ
จาก โบรชัวร์ จากใบปลิว โฆษณา ทีวี หรือสื่อต่างๆ เรารู้ราคาของมันตั้งแต่แรก และก็เห็นแทบจะตลอดตามท้องถนน ป้ายหน้าร้าน บิลบอร์ดโฆษณาตามถนน เยอะมาก
แต่พอมาที่ "ผ้าม่าน" เรากลับแทบไม่รู้ "ราคากลาง" ของมันเลย
พอร้านตีราคามาให้ 3 หมื่น เราบอกแพง
ต้องบอกว่า จะรู้ว่าแพงหรือถูก มันต้องเทียบราคาแต่ละร้านในผ้าแบบเดียวกัน ตีจำนวนหลาเท่าๆกันครับ ถึงจะรู้ได้ว่า ร้านไหนแพงหรือถูก
เชื่อมั้ยครับ ร้านผมเคยตีราคาบ้านทั้งหลังที่ 2.3 หมื่น ลูกค้าเจ้านี้ ไปตีราคาอีกร้าน ได้ราคาที่ 3.7 หมื่น
ผ้าแบบเดียวกัน ขนาดอาจต่างกันนิดหน่อย
นี่แหละครับ ผมถึงชอบบอกว่า ให้ตรวจสอบราคาหลายๆร้านให้ดี เพราะมันฟันกันง่ายมากๆ
กลับมาเรื่อง "ความจำเป็น" กันอีกทีครับ
สรุปว่า "ผ้าม่าน" น่ะ จำเป็นนะครับ เพื่อป้องกันไม่ให้คนนอกเห็น แต่จะเอาที่มันแพงหรือถูกแค่ไหน อันนี้ต้องไปคุยกันเองระหว่างผู้อยู่อาศัยครับ (ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะวงเงินแต่ละบ้านก็มีตัวเลขจำกัดตายตัวอยู่แล้ว)
ส่วน "วอลเปเปอร์" นั้น พูดตรงๆเลยครับ ว่า เป็นของ "ไม่จำเป็น" ครับ
ไม่ติด เราก็อยู่ในบ้านได้
แต่ถ้าใครที่ "ชอบเป็นการส่วนตัว" อันนี้ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ ผมเชียร์สินค้าเพื่อขายได้ครับ แต่ถ้าลูกค้าต้องกัดก้อนเกลือกินเพื่อมาซื้อของร้านผม ผมก็ไม่ขายนะครับ ผมจะขายให้มันพอดีกับความต้องการและกำลังของลูกค้าแต่ละคนมากกว่า ซึ่งก็อยู่ที่การพูดคุยสอบถามกันนั่นแหละครับ สักพักก็จะพอรู้แล้วว่า แต่ละคนวางงบประมาณพวกนี้ไว้ที่เท่าไหร่
ส่วน "มู่ลี่" ติดได้มั้ย ติดได้ครับ แต่มันก็มีทั้ง "มู่ลี่ไม้" และ "มู่ลี่อลูมิเนียม" ซึ่งถ้าเป็นมู่ลี่ไม้ มันก็แพงกว่าครับ ส่วนมู่ลี่อลูมิเนียม ราคามันก็พอๆกับผ้าม่านนั่นแหละครับ (อาจแพงกว่านิดหน่อยเท่านั้น)
ซึ่ง จะติดอะไรยังไง ผมก็ต้องแล้วแต่กำลังกับความชอบของแต่ละท่านแหละครับ
แต่ที่อยากบอกก็คือ อย่าเถียงกันเรื่อง อันนั้นสวย อันนี้ไม่สวย เลยครับ
เพราะจากประสบการณ์ของผม
พอเราติดม่านหรือวอลฯเข้าไปที่บ้านใหม่ของเรา
แรกๆ ก็จะมีเพื่อนฝูง ญาติพี่น้องเรามาเยี่ยมชม บ้างก็ทักว่า เออ ม่านสวยนะ หรือ วอลฯสวยนะ ซึ่งแน่นอนครับ ย่อมสร้างขวัญและกำลังใจให้เราได้มากทีเดียว
ทำให้เรารู้ว่า เราเลือกไม่ผิด
แต่ สักพัก ผ่านไป ปีสองปี
แขกที่มาเยี่ยมเราที่บ้าน เขาจะชมม่านเราทุกครั้งเหรอครับ
ก็ไม่หรอก
พ่อแม่เรา จะชมม่านกับวอลฯบ้านเราทุกครั้งมั้ยครับ
แน่นอนว่า ไม่
เพราะฉะนั้น สิ่งของต่างๆ เมื่อมันเป็นสิ่ิงที่ "ไม่จำเป็น" แล้ว ไม่ว่ามันจะสวยแค่ไหน สักพัก มันก็กลายเป็น "ของธรรมดา" ที่อยู่ในบ้านเราไปนั่นเองครับ
เพราะฉะนั้น เลือกให้พอดีกับความต้องการและ "งบประมาณ" ของเรา
แล้วเราจะไม่ลำบากทีหลังแน่นอนครับ
ร้านผ้าม่านศรีราชา รัชนาผ้าม่าน <<< คลิกมาพูดคุยสอบถามกันได้นะครับผม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น