ชีวิตมันก็เหมือนเกมส์ต่อจุด ถ้าถึงปลายทางหนึ่ง ก็ต้องหาจุดต่อไปให้เจอ ถ้าไม่เจอ ก็เหนื่อย เครียด เบื่อ เซ็ง ไปก่อน แต่ถ้าหาเจอ ก็นั่นแหละครับ ทางไปต่อของแต่ละคน
เมื่อวานได้คุยกะเพื่อนสนิท 2 คนครับ
คนนึงทำงานประจำและทำธุรกิจเสริมไปด้วย ทำหลายอย่างเลยทีเดียว ทั้งรับอะไหล่มาจำหน่ายให้โรงงาน ทั้งเปิดบริษัทสร้างแบรนด์ตัวเอง แต่ติดที่ว่า ไม่รู้ว่าจะพัฒนาหรือเพิ่มยอดขายของตัวเองได้อย่างไร
อีกคนคือชายผู้โชคดี ได้แต่งงานกับหญิงสาวสวยผู้ร่ำรวยฐานะ และก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับธุรกิจในครอบครัวของแฟนตัวเอง แต่พอถึงจุดหนึ่ง ก็พบว่า เวลาว่างของตัวเองเริ่มมีมากขึ้น เพราะไม่ได้ทำงานประจำอีกแล้ว
ตอนนี้ผมเลยต้องทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาจำเป็นให้กับเพื่อนรักของผมทั้งสอง
เพื่อนคนแรกนั้น ได้พบอุปสรรคเรื่องการตลาดและการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายและเพิ่มฐานลูกค้า ผมเลยแนะนำให้ไปเรียนในคอร์สที่ผมได้เรียนมา ซึ่งคอร์สนี้บอกเลยว่าเปลี่ยนชีวิตผมไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งหลังจากที่เพื่อนผมได้ไปเรียนมาแล้ว ก็ได้รับการบ้านจากอาจารย์มามากมายก่ายกอง และก็มีโทรมาถามผมเกี่ยวกับรายละเอียดของการบ้านมากน้อยตามแต่จะเจอ
ส่วนเพื่อนอีกคนที่ว่างจนอยากจะหาอะไรมาทำเพิ่ม ก็สนใจเรื่องการขายของออนไลน์ และอยากจะลองเริ่มต้นนับหนึ่งจากสิ่งที่ตัวเองไม่มีประสบการณ์แม้แต่น้อย โดยการเริ่มต้นที่ดีที่สุดของมันก็คือ การโทรหาผมนั่นเอง
ผมยกตัวอย่างจากเพื่อนสนิททั้งสองคนขึ้นมานี้ เพื่อจะแชร์ว่า จริงๆแล้ว ชีวิตมันก็เหมือนการเดินต่อจุดไปเรื่อยๆ จนถึงวันหนึ่ง วันที่เราเดินมาจนสุดทาง อยากไปต่อ แต่ไปไม่ได้ หรือ ไม่รู้จะไปไหนต่อดี คำถามมันก็เกิดขึ้นมาตรงนั้น เดี๋ยวนั้น ว่า เราควรจะทำอะไรต่อไปกับชีวิตตัวเองดี
ซึ่งคำถามเหล่านั้นมันคงไม่มีคำตอบ จนกว่าเราจะเริ่ม เพิ่ม "จุด" ลงไปในชีวิตเราอีก อาจจะไม่ใช่แค่จุดเดียว อาจจะไม่พอ อาจต้องเพิ่มอีกหลายจุด
ซึ่ง บางคนถ้าหาไม่เจอ เพิ่มไม่ได้ ชีวิตก็อาจเคว้งคว้างอยู่อย่างนั้น
ส่วนผมนั้น หาเจอแล้วครับ
การทำงานประจำและได้ช่วยงานที่ร้านซึ่งเป็นธุรกิจของผมกับแฟนนั้น คือเส้นตรงที่เป็นทางยาวให้ผมเดินได้เหมือนไม่รู้จบ แม้จะมีปัญหา อุปสรรค หรือความเสี่ยงต่างๆที่ผมยังมองไม่เห็นรออยู่ข้างหน้า แต่เพราะการที่เราได้เพิ่ม "จุด" ของเราไปเรื่อยๆ ตลอดเวลา ทำให้เรานั้นมีอะไรให้ทำต่อเนื่องอยู่ตลอดๆ
แล้วเพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ ทุกท่านล่ะครับ
ต่อจุดของตัวเองได้ไกลพอแล้วหรือยัง
หรือมาถึงจุดที่ตัวเองต้องการจะไปต่อแล้วไปไม่ได้แล้วหรือยัง...?
คนนึงทำงานประจำและทำธุรกิจเสริมไปด้วย ทำหลายอย่างเลยทีเดียว ทั้งรับอะไหล่มาจำหน่ายให้โรงงาน ทั้งเปิดบริษัทสร้างแบรนด์ตัวเอง แต่ติดที่ว่า ไม่รู้ว่าจะพัฒนาหรือเพิ่มยอดขายของตัวเองได้อย่างไร
อีกคนคือชายผู้โชคดี ได้แต่งงานกับหญิงสาวสวยผู้ร่ำรวยฐานะ และก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับธุรกิจในครอบครัวของแฟนตัวเอง แต่พอถึงจุดหนึ่ง ก็พบว่า เวลาว่างของตัวเองเริ่มมีมากขึ้น เพราะไม่ได้ทำงานประจำอีกแล้ว
ตอนนี้ผมเลยต้องทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาจำเป็นให้กับเพื่อนรักของผมทั้งสอง
เพื่อนคนแรกนั้น ได้พบอุปสรรคเรื่องการตลาดและการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายและเพิ่มฐานลูกค้า ผมเลยแนะนำให้ไปเรียนในคอร์สที่ผมได้เรียนมา ซึ่งคอร์สนี้บอกเลยว่าเปลี่ยนชีวิตผมไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งหลังจากที่เพื่อนผมได้ไปเรียนมาแล้ว ก็ได้รับการบ้านจากอาจารย์มามากมายก่ายกอง และก็มีโทรมาถามผมเกี่ยวกับรายละเอียดของการบ้านมากน้อยตามแต่จะเจอ
ส่วนเพื่อนอีกคนที่ว่างจนอยากจะหาอะไรมาทำเพิ่ม ก็สนใจเรื่องการขายของออนไลน์ และอยากจะลองเริ่มต้นนับหนึ่งจากสิ่งที่ตัวเองไม่มีประสบการณ์แม้แต่น้อย โดยการเริ่มต้นที่ดีที่สุดของมันก็คือ การโทรหาผมนั่นเอง
ผมยกตัวอย่างจากเพื่อนสนิททั้งสองคนขึ้นมานี้ เพื่อจะแชร์ว่า จริงๆแล้ว ชีวิตมันก็เหมือนการเดินต่อจุดไปเรื่อยๆ จนถึงวันหนึ่ง วันที่เราเดินมาจนสุดทาง อยากไปต่อ แต่ไปไม่ได้ หรือ ไม่รู้จะไปไหนต่อดี คำถามมันก็เกิดขึ้นมาตรงนั้น เดี๋ยวนั้น ว่า เราควรจะทำอะไรต่อไปกับชีวิตตัวเองดี
ซึ่งคำถามเหล่านั้นมันคงไม่มีคำตอบ จนกว่าเราจะเริ่ม เพิ่ม "จุด" ลงไปในชีวิตเราอีก อาจจะไม่ใช่แค่จุดเดียว อาจจะไม่พอ อาจต้องเพิ่มอีกหลายจุด
ซึ่ง บางคนถ้าหาไม่เจอ เพิ่มไม่ได้ ชีวิตก็อาจเคว้งคว้างอยู่อย่างนั้น
ส่วนผมนั้น หาเจอแล้วครับ
การทำงานประจำและได้ช่วยงานที่ร้านซึ่งเป็นธุรกิจของผมกับแฟนนั้น คือเส้นตรงที่เป็นทางยาวให้ผมเดินได้เหมือนไม่รู้จบ แม้จะมีปัญหา อุปสรรค หรือความเสี่ยงต่างๆที่ผมยังมองไม่เห็นรออยู่ข้างหน้า แต่เพราะการที่เราได้เพิ่ม "จุด" ของเราไปเรื่อยๆ ตลอดเวลา ทำให้เรานั้นมีอะไรให้ทำต่อเนื่องอยู่ตลอดๆ
แล้วเพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ ทุกท่านล่ะครับ
ต่อจุดของตัวเองได้ไกลพอแล้วหรือยัง
หรือมาถึงจุดที่ตัวเองต้องการจะไปต่อแล้วไปไม่ได้แล้วหรือยัง...?
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น