ช่าง Freelance.... งานเฉพาะทาง กับชีวิตที่เฉพาะทางยิ่งกว่า
ผมอยากจะพูดเรื่อง "ช่าง" สักนิด
แน่นอนว่า ร้านผมคือร้านผ้าม่าน
เพราะฉะนั้น "ช่าง" ที่ผมจะพูดถึงก็คงไม่พ้น "ช่างผ้าม่าน" หรือ "ช่างวอลเปเปอร์"
วันก่อนได้นั่งกินข้าวล้อมวงกับช่าง 2-3 คนที่บ้าน (เปิดบ้านเลี้ยงข้าวกันเป็นปกติครับ)
ช่างที่ทำงานให้ร้านผมนั้น ไม่มีช่างที่เป็น "ช่างประจำ" เลยสักคน
เป็น Freelance ทั้งหมดครับ
ถ้าย้อนไปหลายปีก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่ ร้านผ้าม่านหรือวอลเปเปอร์ต่างๆ ก็มักจะมี "ช่างประจำ" กินเงินเดือนร้านอยู่แทบจะทุกร้าน
แต่เดี๋ยวนี้ สมัยนี้ หายากกว่าเก่าครับ ช่างไม่ประจำหรือช่าง Freelance นั้นเพิ่มเยอะขึ้นมาก
เหตุผลหลักๆเพราะ
1. นายจ้างไม่ต้องมาเสียค่าจ้างประจำอย่างเงินเดือนหรือสวัสดิการทุกเดือน เมื่อเทียบกับรายได้หรือลูกค้าที่ไม่ได้คงเส้นคงวาทุกเดือน ถ้ามีช่างประจำ ก็ต้องมี Fix Cost หรือรายจ่ายคงที่ ซึ่งเป็นภาระที่ต้องแบกรับไม่ใช่น้อยครับ
2. งานที่ได้จากช่างประจำ กับช่าง Freelance นั้น แตกต่างกันมาก เท่าที่ผมรู้จัก หลายๆร้านที่มีช่างประจำ พบปัญหาคล้ายๆกัน คือ ช่างทำงานแบบขอไปที ทำแบบลวกๆให้เสร็จๆไปโดยไม่สนว่างานจะดีหรือไม่ ชื่อเสียงร้านจะเป็นไง ถือว่าได้เงินเดือนแล้ว ออกมาทำงาน ก็รีบทำให้เสร็จจะได้รีบกลับ แน่นอนว่า งานที่ได้ย่อมไม่ดีครับ หลายๆครั้งต้องตามแก้เพราะโดน Complain ร้ายๆหน่อย ก็ถูกช่างโกงครับ เบิกไอ้นี่ไอ้นั่นเกินจริง ลูกค้าเลี้ยงข้าวแล้วก็ไปเบิกค่าข้าวกับเจ้าของร้านอีก หรือแย่หนักๆ ก็แอบไปรับงานนอกเสียเอง อย่างเวลาไปติดงานบ้านลูกค้า เพื่อนหรือญาติลูกค้าเข้ามาถามเพื่อจะติดต่องาน ช่างก็แอบรับงานไว้ซะเอง ก็มีครับ
ผ้าม่าน ศรีราชา
สุดท้าย ร้านผ้าม่านจึงหันมาพึ่งช่าง Freelance กันเยอะขึ้นเรื่อยๆ เพราะอันดับแรกเลยคือ "คุณภาพงาน" ที่ดีกว่าเห็นๆ เพราะถ้างานออกมาไม่ดี งานหน้า เขาก็ไม่จ้างหรือไม่เรียกใช้นั่นเอง
สอง คือรับงานหลายๆร้านได้ครับ ช่างเองก็ต้องกินต้องใช้ หากทำงานให้ร้านเดียวแต่ร้านนั้นไม่มีงานให้เลย ก็ไม่มีเงินไม่มีรายได้สิครับ สุดท้าย การไม่ประจำที่ร้านไหนเลย กลับเป็นทางเลือกให้ได้งานที่เพิ่มมากกว่าเดิมหลายเท่า
แน่นอนว่า คุณภาพของงานต้องออกมาดีด้วยนะครับ
ทำชุ่ยๆนี่ ครั้งสองครั้ง มีตัดจบแน่นอน
ช่างที่ร้านผมร่วมงานด้วย มีทั้งดีและไม่ดีครับ ส่วนใหญ่จะดี โดยเฉพาะฝีมือ ทำงานต้องเนียน ไม่ต้องรีบมาก เน้นๆ ให้เสร็จสวยงาม ไม่ต้องมีแก้ ดีที่สุด
เคยเจอช่างไม่ค่อยดี ก็มีบ้างครับ บอกกล่าวกันแล้ว ถ้าไม่แก้ไข ถ้าผมมีทางเลือกกับช่างอื่น ก็จบครับ ผมก็ไม่จ้างเขาอีก
แต่เหนือสิ่งอื่นใดครับ คือ "น้ำใจ" อันนี้สำคัญสุด
ผมมองว่า ช่าง Freelance ที่ผมจ้างเขามา เปรียบเสมือน "ผู้ร่วมงาน" ครับ ถ้าไม่มีเขา เราก็ไม่ได้ตังค์จากลูกค้า ส่วนเขา ถ้าไม่มีหน้าร้านเรา เขาก็ไม่สามารถจะหาลูกค้าได้ เพราะวันๆก็เอาแต่ทำงาน ไปติดงานหน้างานบ้านลูกค้า ไม่ได้เจอใคร
ร้านผ้าม่านศรีราชา
ร้านสมัยเก่า ส่วนใหญ่ ชอบมองพวกช่างว่า เป็น "ลูกจ้าง" แต่กำเนิด ช่างที่ผมเคยคุยด้วยมา แทบไม่มีคนไหนเลยครับ ที่ไม่ถูก "เอารัดเอาเปรียบ" เจ้าของร้านส่วนใหญ่มักเอาเปรียบช่างเป็นอย่างมาก ที่เห็นบ่อยๆก็ ทำงานแล้วไม่จ่ายเงิน ชอบบอกช่างว่า เอาไว้ก่อน เดี๋ยวรวมๆกันให้ทีเดียวเลย ถ้าเมื่อไหร่ขาดเหลืออะไรยังไงก็มาบอก แต่จบงานแล้วไม่ได้ให้เลย นานๆเข้า สะสมไป ช่างก็ขาดทุนสิครับ เพราะต่างคนก็ต่างไม่ได้จด
ผมถึงได้เห็นเลยว่า ช่างส่วนใหญ่ที่ทำงานกับร้านไหนนานๆแล้วยังไม่รวยหรือไม่มีเงินเก็บนั้น มีไม่กี่สาเหตุหรอกครับ หลักๆเลยคือ ทำงานแล้วเขาไม่จ่ายตังค์ทันที ช่างเองก็ไม่กล้าหือ ไม่กล้าทวง พอเขาบอกว่า "เดี๋ยวๆ" ก็เงียบแล้ว ไม่กล้าเถียง เดี๋ยวไม่มีงานอีก
ผมกับแฟนนั้น เป็นพนักงานบริษัทกันมาทั้งคู่ รู้ดีว่า สิ่งสำคัญที่สุดของการทำงานคือ "เงินค่าจ้าง" ครับ ต่อให้งานดีหรือหัวหน้าดีแค่ไหน ถ้าทำแล้วไม่ได้ตังค์ หรือได้ไม่ครบ ก็ไม่สมควรจะมาเรียกร้องอะไรอีกจากพนักงาน
ร้านผมเลยจ่ายเงินตรง จ่ายครบ จ่ายเต็ม แถมเพิ่มให้อีกไม่อั้น ค่าน้ำมันรถช่าง เบิกได้หมด ค่ากินออกให้หมด เลี้ยงข้าวทุกมื้อ ช่างมาทำงานไม่ต้องพกตังค์มาสักบาท น้ำ น้ำแข็ง โค้ก สปอนเซอร์ M150 จะเอาอะไรบอก ซื้อให้หมด ไม่มีเวลาก็ให้ตังค์ไปซื้อครับ
สิ้นเดือน ครบสามเดือน ครบ 6 เดือน มีโบนัสให้อีก
ช่างใหญ่ที่ผมทำงานด้วยประจำ แฟนผมดาวน์รถให้ไปเลยคันนึง เป็นชื่อผม ให้ช่างทำงานผ่อนเอง โอนแล้วเดี๋ยวเปลี่ยนชื่อให้ช่างเขาเลย
ไม่นานนัก ช่างหลายๆคนที่รู้กิตติศัพท์ร้านผม ที่ได้มาทำงานร่วมกัน ก็ชอบร้านผมกันทุกคน เหตุหลักๆก็เพราะ Give & Take นี่แหละครับ แฟนผมเขาให้ ให้เหลือเกิน ให้มากกว่าที่ผมคิดว่าผมจะให้เสียอีก จนบางครั้งผมต้องปรามๆไปบ้าง อย่างเช่น จะพาช่างไปเที่ยวต่างประเทศ ผมบอก เอ่อ... บางที ถามช่างเขาก่อนดีกว่ามั้ย พาไปคนนึง หัวละ 5 พันเป็นอย่างต่ำ เปลี่ยนจากพาไปเที่ยว เป็นใส่ซองให้ตังค์หรือให้ทองเขาคนละสลึง 2 สลึงจะดีกว่ามั้ย
แต่อันนี้ก็แล้วแต่คนแล้วแต่ร้านนะครับ ผมไม่ได้บอกว่า ร้านผมดีที่สุด แต่ผมมั่นใจว่า ร้านผมไม่เอาเปรียบใครแน่ๆ โดยเฉพาะลูกค้า และช่างที่ทำงานด้วยกัน
ผ้าม่าน ชลบุรี
ส่วนร้านอื่น อันนี้ผมไม่ทราบได้
เท่าที่ทราบ ก็มาจากปากของช่างแต่ละคนที่ไปติดงานร้านอื่นๆมา แล้วเจออะไร โดนอะไรมา ก็อาจมีมาบ่นให้ฟังบนโต๊ะอาหารกันบ้าง แต่ก็ไม่ได้อะไรมากนะครับ ผมก็มองว่าร้านอื่นๆเขาก็คนทำมาหากินเหมือนกัน แต่ละคน มีดี มีร้าย ปะปนกันไป
สิ่งสำคัญเหนืออื่นใดของเรื่องนี้ก็คือ สุดท้ายแล้ว ทุกๆเรื่องมันก็ไม่พ้นเรื่อง "คน" ครับ
การทำงาน ลูกค้า ทีมงาน การบริหารจัดการ ทุกอย่างมันมีเรื่อง "คน" มาเกี่ยวข้องเสมอ
และถ้าใครที่จัดการหรือทำมันได้ดี คนๆนั้นก็น่าจะประสบความสำเร็จได้มากกว่าคนอื่นนั่นแหละครับ
เพราะความสำเร็จของคนเรา มันเกิดขึ้นจากเราเองคนเดียวก็จริง
แต่มันจะยิ่งง่าย และเร็วกว่า ถ้าเรามี "ทีม" ที่ทำงานด้วยความรู้สึกดีๆด้วยกันได้ "ผลงาน" ที่ดีก็จะตามมา และลูกค้าที่ดีๆ ก็จะวิ่งเข้ามาหา แน่นอนครับ
ร้านผ้าม่านศรีราชา
แน่นอนว่า ร้านผมคือร้านผ้าม่าน
เพราะฉะนั้น "ช่าง" ที่ผมจะพูดถึงก็คงไม่พ้น "ช่างผ้าม่าน" หรือ "ช่างวอลเปเปอร์"
วันก่อนได้นั่งกินข้าวล้อมวงกับช่าง 2-3 คนที่บ้าน (เปิดบ้านเลี้ยงข้าวกันเป็นปกติครับ)
ช่างที่ทำงานให้ร้านผมนั้น ไม่มีช่างที่เป็น "ช่างประจำ" เลยสักคน
เป็น Freelance ทั้งหมดครับ
ถ้าย้อนไปหลายปีก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่ ร้านผ้าม่านหรือวอลเปเปอร์ต่างๆ ก็มักจะมี "ช่างประจำ" กินเงินเดือนร้านอยู่แทบจะทุกร้าน
แต่เดี๋ยวนี้ สมัยนี้ หายากกว่าเก่าครับ ช่างไม่ประจำหรือช่าง Freelance นั้นเพิ่มเยอะขึ้นมาก
เหตุผลหลักๆเพราะ
1. นายจ้างไม่ต้องมาเสียค่าจ้างประจำอย่างเงินเดือนหรือสวัสดิการทุกเดือน เมื่อเทียบกับรายได้หรือลูกค้าที่ไม่ได้คงเส้นคงวาทุกเดือน ถ้ามีช่างประจำ ก็ต้องมี Fix Cost หรือรายจ่ายคงที่ ซึ่งเป็นภาระที่ต้องแบกรับไม่ใช่น้อยครับ
2. งานที่ได้จากช่างประจำ กับช่าง Freelance นั้น แตกต่างกันมาก เท่าที่ผมรู้จัก หลายๆร้านที่มีช่างประจำ พบปัญหาคล้ายๆกัน คือ ช่างทำงานแบบขอไปที ทำแบบลวกๆให้เสร็จๆไปโดยไม่สนว่างานจะดีหรือไม่ ชื่อเสียงร้านจะเป็นไง ถือว่าได้เงินเดือนแล้ว ออกมาทำงาน ก็รีบทำให้เสร็จจะได้รีบกลับ แน่นอนว่า งานที่ได้ย่อมไม่ดีครับ หลายๆครั้งต้องตามแก้เพราะโดน Complain ร้ายๆหน่อย ก็ถูกช่างโกงครับ เบิกไอ้นี่ไอ้นั่นเกินจริง ลูกค้าเลี้ยงข้าวแล้วก็ไปเบิกค่าข้าวกับเจ้าของร้านอีก หรือแย่หนักๆ ก็แอบไปรับงานนอกเสียเอง อย่างเวลาไปติดงานบ้านลูกค้า เพื่อนหรือญาติลูกค้าเข้ามาถามเพื่อจะติดต่องาน ช่างก็แอบรับงานไว้ซะเอง ก็มีครับ
ผ้าม่าน ศรีราชา
สุดท้าย ร้านผ้าม่านจึงหันมาพึ่งช่าง Freelance กันเยอะขึ้นเรื่อยๆ เพราะอันดับแรกเลยคือ "คุณภาพงาน" ที่ดีกว่าเห็นๆ เพราะถ้างานออกมาไม่ดี งานหน้า เขาก็ไม่จ้างหรือไม่เรียกใช้นั่นเอง
สอง คือรับงานหลายๆร้านได้ครับ ช่างเองก็ต้องกินต้องใช้ หากทำงานให้ร้านเดียวแต่ร้านนั้นไม่มีงานให้เลย ก็ไม่มีเงินไม่มีรายได้สิครับ สุดท้าย การไม่ประจำที่ร้านไหนเลย กลับเป็นทางเลือกให้ได้งานที่เพิ่มมากกว่าเดิมหลายเท่า
แน่นอนว่า คุณภาพของงานต้องออกมาดีด้วยนะครับ
ทำชุ่ยๆนี่ ครั้งสองครั้ง มีตัดจบแน่นอน
ช่างที่ร้านผมร่วมงานด้วย มีทั้งดีและไม่ดีครับ ส่วนใหญ่จะดี โดยเฉพาะฝีมือ ทำงานต้องเนียน ไม่ต้องรีบมาก เน้นๆ ให้เสร็จสวยงาม ไม่ต้องมีแก้ ดีที่สุด
เคยเจอช่างไม่ค่อยดี ก็มีบ้างครับ บอกกล่าวกันแล้ว ถ้าไม่แก้ไข ถ้าผมมีทางเลือกกับช่างอื่น ก็จบครับ ผมก็ไม่จ้างเขาอีก
แต่เหนือสิ่งอื่นใดครับ คือ "น้ำใจ" อันนี้สำคัญสุด
ผมมองว่า ช่าง Freelance ที่ผมจ้างเขามา เปรียบเสมือน "ผู้ร่วมงาน" ครับ ถ้าไม่มีเขา เราก็ไม่ได้ตังค์จากลูกค้า ส่วนเขา ถ้าไม่มีหน้าร้านเรา เขาก็ไม่สามารถจะหาลูกค้าได้ เพราะวันๆก็เอาแต่ทำงาน ไปติดงานหน้างานบ้านลูกค้า ไม่ได้เจอใคร
ร้านผ้าม่านศรีราชา
ร้านสมัยเก่า ส่วนใหญ่ ชอบมองพวกช่างว่า เป็น "ลูกจ้าง" แต่กำเนิด ช่างที่ผมเคยคุยด้วยมา แทบไม่มีคนไหนเลยครับ ที่ไม่ถูก "เอารัดเอาเปรียบ" เจ้าของร้านส่วนใหญ่มักเอาเปรียบช่างเป็นอย่างมาก ที่เห็นบ่อยๆก็ ทำงานแล้วไม่จ่ายเงิน ชอบบอกช่างว่า เอาไว้ก่อน เดี๋ยวรวมๆกันให้ทีเดียวเลย ถ้าเมื่อไหร่ขาดเหลืออะไรยังไงก็มาบอก แต่จบงานแล้วไม่ได้ให้เลย นานๆเข้า สะสมไป ช่างก็ขาดทุนสิครับ เพราะต่างคนก็ต่างไม่ได้จด
ผมถึงได้เห็นเลยว่า ช่างส่วนใหญ่ที่ทำงานกับร้านไหนนานๆแล้วยังไม่รวยหรือไม่มีเงินเก็บนั้น มีไม่กี่สาเหตุหรอกครับ หลักๆเลยคือ ทำงานแล้วเขาไม่จ่ายตังค์ทันที ช่างเองก็ไม่กล้าหือ ไม่กล้าทวง พอเขาบอกว่า "เดี๋ยวๆ" ก็เงียบแล้ว ไม่กล้าเถียง เดี๋ยวไม่มีงานอีก
ผมกับแฟนนั้น เป็นพนักงานบริษัทกันมาทั้งคู่ รู้ดีว่า สิ่งสำคัญที่สุดของการทำงานคือ "เงินค่าจ้าง" ครับ ต่อให้งานดีหรือหัวหน้าดีแค่ไหน ถ้าทำแล้วไม่ได้ตังค์ หรือได้ไม่ครบ ก็ไม่สมควรจะมาเรียกร้องอะไรอีกจากพนักงาน
ร้านผมเลยจ่ายเงินตรง จ่ายครบ จ่ายเต็ม แถมเพิ่มให้อีกไม่อั้น ค่าน้ำมันรถช่าง เบิกได้หมด ค่ากินออกให้หมด เลี้ยงข้าวทุกมื้อ ช่างมาทำงานไม่ต้องพกตังค์มาสักบาท น้ำ น้ำแข็ง โค้ก สปอนเซอร์ M150 จะเอาอะไรบอก ซื้อให้หมด ไม่มีเวลาก็ให้ตังค์ไปซื้อครับ
สิ้นเดือน ครบสามเดือน ครบ 6 เดือน มีโบนัสให้อีก
ช่างใหญ่ที่ผมทำงานด้วยประจำ แฟนผมดาวน์รถให้ไปเลยคันนึง เป็นชื่อผม ให้ช่างทำงานผ่อนเอง โอนแล้วเดี๋ยวเปลี่ยนชื่อให้ช่างเขาเลย
ไม่นานนัก ช่างหลายๆคนที่รู้กิตติศัพท์ร้านผม ที่ได้มาทำงานร่วมกัน ก็ชอบร้านผมกันทุกคน เหตุหลักๆก็เพราะ Give & Take นี่แหละครับ แฟนผมเขาให้ ให้เหลือเกิน ให้มากกว่าที่ผมคิดว่าผมจะให้เสียอีก จนบางครั้งผมต้องปรามๆไปบ้าง อย่างเช่น จะพาช่างไปเที่ยวต่างประเทศ ผมบอก เอ่อ... บางที ถามช่างเขาก่อนดีกว่ามั้ย พาไปคนนึง หัวละ 5 พันเป็นอย่างต่ำ เปลี่ยนจากพาไปเที่ยว เป็นใส่ซองให้ตังค์หรือให้ทองเขาคนละสลึง 2 สลึงจะดีกว่ามั้ย
แต่อันนี้ก็แล้วแต่คนแล้วแต่ร้านนะครับ ผมไม่ได้บอกว่า ร้านผมดีที่สุด แต่ผมมั่นใจว่า ร้านผมไม่เอาเปรียบใครแน่ๆ โดยเฉพาะลูกค้า และช่างที่ทำงานด้วยกัน
ผ้าม่าน ชลบุรี
ส่วนร้านอื่น อันนี้ผมไม่ทราบได้
เท่าที่ทราบ ก็มาจากปากของช่างแต่ละคนที่ไปติดงานร้านอื่นๆมา แล้วเจออะไร โดนอะไรมา ก็อาจมีมาบ่นให้ฟังบนโต๊ะอาหารกันบ้าง แต่ก็ไม่ได้อะไรมากนะครับ ผมก็มองว่าร้านอื่นๆเขาก็คนทำมาหากินเหมือนกัน แต่ละคน มีดี มีร้าย ปะปนกันไป
สิ่งสำคัญเหนืออื่นใดของเรื่องนี้ก็คือ สุดท้ายแล้ว ทุกๆเรื่องมันก็ไม่พ้นเรื่อง "คน" ครับ
การทำงาน ลูกค้า ทีมงาน การบริหารจัดการ ทุกอย่างมันมีเรื่อง "คน" มาเกี่ยวข้องเสมอ
และถ้าใครที่จัดการหรือทำมันได้ดี คนๆนั้นก็น่าจะประสบความสำเร็จได้มากกว่าคนอื่นนั่นแหละครับ
เพราะความสำเร็จของคนเรา มันเกิดขึ้นจากเราเองคนเดียวก็จริง
แต่มันจะยิ่งง่าย และเร็วกว่า ถ้าเรามี "ทีม" ที่ทำงานด้วยความรู้สึกดีๆด้วยกันได้ "ผลงาน" ที่ดีก็จะตามมา และลูกค้าที่ดีๆ ก็จะวิ่งเข้ามาหา แน่นอนครับ
ร้านผ้าม่านศรีราชา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น